Friday, 31 March 2023

โรคอ้วน : การเหยียดรูปร่างในอินเดียเพิ่ม ขณะประชากรมีน้ำหนักตัวเกินปกติราว 135 ล้านคน

 

โรคอ้วนในอินเดีย เมื่อไม่นานมานี้ รัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐเกรละของประเทศอินเดียได้โพสต์เรื่องราวทางเฟซบุ๊กบอกเล่าประสบการณ์ที่เขาถูกดูถูกดูหมิ่นรูปร่าง ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในประเทศอินเดีย

วี ศิวานกุตตี รัฐมนตรีทางการศึกษาของรัฐเกรละ เล่าว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้โพสต์ภาพที่ถ่ายกับผู้เรียนกลุ่มหนึ่ง แล้วต่อจากนั้นมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กคนหนึ่งเข้าไปคอมเมนต์ว่า คุณควรลดพุงลงสักนิดสักหน่อย

คนอ้วนในอินเดีย โรคอ้วน

โรคอ้วนในอินเดีย ศิวานากุตตี ส่งข้อความตอบกลับว่า การเหยียดรูปร่างคนอื่นเป็น “การกระทำที่น่ารังเกียจ”

“การเหยียดรูปร่างเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะมีคำอธิบายอย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในทุกระดับชั้นของสังคมเรา มีพวกเราหลายคนตกเป็นเหยื่อการถูกเหยียดรูปร่างจนถึงขั้นที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ” เขาระบุ “เราต้องยุติการเหยียดรูปร่าง จงเป็นคนที่มีแนวคิดสมัยใหม่” ศิวานากุตตีกล่าวทิ้งท้าย

ศิวานากุตตี เล่าให้บีบีซีฟังว่า กรณีที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้ตระหนักว่าการเหยียดรูปร่างเป็นปัญหาที่อันตรายเพียงใด พร้อมชี้ว่า รัฐบาลระดับรัฐควรรณรงค์ให้เด็กนักเรียนและครูได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยบรรจุเป็นหลักสูตรการเรียนในสถาบันต่าง ๆ

ความเห็นของศิวานากุตตี บวกกับหนังบอลลีวูดเรื่องล่าสุดที่ชื่อ Double XL ได้จุดใจความสำคัญร้อนในสังคมประเทศอินเดียที่ผู้คนมักถือวิสาสะวิจารณ์รูปร่างหน้าตาของคนอื่นๆโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้ที่ถูกวิภาควิจารณ์

ภาพยนตร์ประเด็นนี้นำแสดงโดยสองดาราสาว ฮูมา กุเรษี รวมทั้งโสนากษี สินหา ซึ่งเคยเล่าถึงประสบการณ์เป็นเหยื่อการดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่างมาแล้ว โดยสินหามักถูกทำร้ายทางเครือข่ายสังคมจาก เรื่อง น้ำหนัก ตัว ในเวลาที่กุเรษี เคยถูกนักวิจารณ์พูดว่า “เธอ น้ำหนักตัว เกินกว่า ที่จะรับบทวีรสตรีมา 5 กิโลกรัม”

ซาตรัม รามานี ผู้กำกับเรื่อง Double XL บอกกับบีบีซีว่า ภาพยนตร์ เรื่องนี้ มี เนื้อหา เกี่ยวกับ สาวเจ้า เนื้อ 2 คน ที่ พบว่า น้ำหนัก ตัว ของ พวกเธอ เป็น อุปสรรค ต่อ ความฝัน และ พยายาม หาวิธี ก้าวข้าม ปัญหานี้

รามานี เล่าว่า “ผม เคย เห็น คน ที่ เต็ม ไป ด้วย พรสวรรค์ เผชิญ การดูถูก เพราะ น้ำหนักตัว ของ พวก เขา นี่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เลย”

นักวิจารณ์ผู้คนจำนวนมากชี้ว่า อุตสาหกรรมหนังบอลลีวูดคือส่วนหนึ่งที่สร้างค่านิยมให้คนอินเดียมองว่าความอ้วนคือสิ่งน่าสะอิดสะเอียน รวมทั้งความผอมคือสิ่งงาม

รามานี บอกว่า หนังเรื่อง Double XL ต้องการสื่อให้คนในสังคม “ยอมรับความงามของตัวเอง ไม่ว่าจะมีรูปร่าง ขนาด หรือสีผิวอะไร”

หากแม้ Double XL จะ ทำรายได้ ไม่ดี เท่า หนัง บอลลีวูด เรื่อง อื่นที่ย้ำการร้อง เล่น เต้นรำ แต่รามานีพูดว่าเขาพอใจที่สังคมกำลังกล่าวถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่าง ซึ่งเกิดขึ้นทั่วทั้งโลกไม่ใช่แค่ที่ประเทศอินเดีย

นี่คือปัญหาที่ ฮาร์นิดห์ กอร์ นักกวีพลัสไซส์ต้องเผชิญ รวมทั้งเขียนเล่าเรื่องราวของเธอลงในคอลัมน์รวมทั้งเครือข่ายสังคม

กอร์พูดว่า การดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่างเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย

เพราะ คนอินเดียส่วนมากไม่เคยทราบขอบเขต รวมทั้งในครอบครัวของเราทุกคนต่างวิภาควิจารณ์รูปร่างหน้าตาของกันและกัน

เธอชี้ว่าหากแม้ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับคนทุกเพศ แต่ผู้หญิงเป็นข้างที่ได้รับผลพวงเยอะที่สุด เพราะผู้หญิงมักถูกตัดสินว่ามีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการสมรสหรือเปล่า รวมทั้งสาวอ้วนมักเป็นตัวเลือกท้ายๆในประเด็นนี้

กอร์ เล่าว่าเธอได้รับการวิเคราะห์ว่ามีสภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome หรือ PCOS) ตอนอายุ 12 ปี ทำให้เติบโตมาพร้อมกับการถูกล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัว เพราะสภาวะนี้ทำให้ผู้ป่วยมีน้ำหนักเพิ่ม เมนส์มาไม่ปกติ รวมทั้งมีปัญหาผมหล่น

นักกวีหญิงรายนี้พูดว่า หากแม้บ่อยครั้งการดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่างจะเกิดจากเจตนาดีของคนภายในครอบครัวที่มีความห่วงใยในสุขภาพ แต่เธอพบว่าทัศนคติของมนุษย์ในประเด็นนี้นำไปสู่การเลือกปฏิบัติด้วย เพราะคนส่วนมากมักมองว่าคนอ้วนมีนิสัยขี้เกียจและไม่มีวินัย ทำให้พวกเขาถูกขัดขวางในตลาดงาน

เธอยกตัวอย่างเพิ่มว่า

“ตอนที่ฉันไปโรงพยาบาลเพราะเป็นภูมิแพ้ แต่หมอกลับพูดว่าที่ฉันหายใจไม่ออกเพราะฉันอ้วนเกินไป และตอนที่ฉันข้อเท้าหัก หมอพูดว่าฉันคงจะกระดูกไม่หัก ถ้าน้ำหนักตัวไม่มากขนาดนี้”

พญ.จิตรา เสลวาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่อมไร้ท่อพูดว่า หมอ ไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดีพอเรื่องศิลปะการติดต่อสื่อสาร รวมทั้งเมื่อพูดถึงการดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่าง หมอหลายคนมองว่าแนวทางนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนไข้บากบั่นลดความอ้วน

เธอชี้ว่า การดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่างบางทีอาจทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านสังคมรวมทั้งทางด้านจิตใจ เพราะการถูกตำหนิเรื่องน้ำหนักตัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นมีผลต่อการเห็นค่าในตัวเองรวมทั้งสุขภาพด้านจิต ซึ่งบางทีอาจนำไปสู่ปัญหา ความประพฤติการกินอาหารไม่ปกติ (eating disorder) รวมทั้งทำให้รู้สึกแตกต่างจากสังคม จนถึงกลายเป็นคนเก็บตัว

พญ.เสลวาน พูดว่า การตำหนิคนไข้ที่มีน้ำหนักเกินเป็นวิธีที่ใช้ไม่ได้ผล รวมทั้งอาจก่อให้คนไข้กลุ่มนี้ไม่กล้าขอร้องจากหมออีก

เธอชี้ว่า เหตุการณ์นี้บางทีอาจร้ายแรงขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้อินเดียมีประชากรที่น้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วนราว 135 ล้านคน ข้อมูลจากรัฐบาลรวมทั้งองค์การอนามัยโลกบ่งชี้ว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นอีก โดยที่หมอผู้คนจำนวนมากเตือนถึงวิกฤตโรคอ้วนที่จะทวีความร้ายแรงขึ้นในประเทศอินเดีย

พญ.เสลวาน พูดว่า ปัญหาน้ำหนักตัวเกินไม่ได้เกิดจากการเลือกกินอาหารไม่ถูกต้องเพียงแค่นั้น แต่สภาวะนี้มีความซับซ้อน เพราะบางทีอาจเกิดจากหลายเหตุร่วมกัน เป็นต้นว่า ฮอร์โมน รวมทั้งความเคร่งเครียด ดังนั้นก็เลยถึงเวลาแล้วที่หมอรวมทั้งสังคมจำเป็นต้องเลิกความประพฤติดูหมิ่นเหยียดหยามรูปร่างของคนอ้วน